AMNESTY

เราคือขบวนการของคนธรรมดามากกว่า

10 ล้าน คนทั่วโลก

ที่ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อสังคมที่เท่าเทียมและยุติธรรมสำหรับทุกคน

AMNESTY

เราคือขบวนการของคนธรรมดามากกว่า

10 ล้าน คนทั่วโลก

ที่ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อสังคมที่เท่าเทียมและยุติธรรมสำหรับทุกคน

AMNESTY

เราคือขบวนการของคนธรรมดามากกว่า

10 ล้าน คนทั่วโลก

ที่ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อสังคมที่เท่าเทียมและยุติธรรมสำหรับทุกคน

menu

AMNESTY

เราคือขบวนการของคนธรรมดามากกว่า

10 ล้าน คนทั่วโลก

ที่ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อสังคมที่เท่าเทียมและยุติธรรมสำหรับทุกคน

AMNESTY

เราคือขบวนการของคนธรรมดามากกว่า

10 ล้าน คนทั่วโลก

ที่ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อสังคมที่เท่าเทียมและยุติธรรมสำหรับทุกคน

AMNESTY

เราคือขบวนการของคนธรรมดามากกว่า

10 ล้าน คนทั่วโลก

ที่ร่วมกันสร้างความเปลี่ยนแปลงด้านสิทธิมนุษยชน เพื่อสังคมที่เท่าเทียมและยุติธรรมสำหรับทุกคน

แบ่งปัน

สิทธิเสรีภาพในการสมาคม

ภาพรวม

“ประชาสังคมที่มีเสรีภาพและอิสระภาพในการสมาคมเป็นรากฐานของการปกครองที่แข็งแรงและสามารถตอบสนองทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับโลก”

-บัน คีมุน อดีตเลขาธิการสหประชาชาติ-

“การสมาคม” หมายถึง การที่กลุ่มบุคคลหลายคนมารวมตัวกันโดยมีจุดประสงค์เพื่อประโยชน์บางประการ ซึ่งนิติบุคคลที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อกระทําการใด ๆ อันมีลักษณะต่อเนื่องร่วมกันและมิใช่เป็นการแสวงหาผลกําไรหรือรายได้มาแบ่งปันกัน แสดงออกในรูปสิทธิในการเข้าร่วมสหภาพแรงงาน มีเสรีภาพในการพูดหรือเข้าร่วมสมาคมโต้วาที หรือสโมสร รวมทั้งองค์การศาสนา ภราดรภาพ และสโมสรกีฬาหรือสมาคมรูปแบบอื่น ๆ และต้องไม่ถูกบังคับให้เข้าร่วมสมาคมใดสมาคมหนึ่ง 

“สิทธิเสรีภาพในการสมาคม” เป็นสิทธิที่ถูกรับรองไว้ในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (International Covenant on Civil and Political Rights หรือ ICCPR) ที่ประเทศไทยเป็นภาคี ในข้อ 22 ของ ICCPR ระบุว่า “บุคคลทุกคนย่อมมีสิทธิที่จะมีเสรีภาพในการสมาคม รวมทั้งสิทธิที่จะก่อตั้งและเข้าร่วมสหภาพแรงงานเพื่อปกป้องประโยชน์ของตน” สิทธิเสรีภาพในการสมาคมยังเป็นปัจจัยสำคัญที่ก่อให้เกิดสิทธิในการมีส่วนร่วมในกิจการสาธารณะซึ่งได้รับการรับรองไว้ในข้อ 25 ของ ICCPR 

นอกจากนั้นเสรีภาพในการสมาคมยังเป็นสิทธิที่ได้รับการหนุนเสริมจากสิทธิและเสรีภาพอื่น ๆ เช่น เสรีภาพในการชุมนุม เสรีภาพในการแสดงออก และสิทธิด้านความคิด มโนธรรมสำนึก และศาสนา ด้วยเหตุดังกล่าว เสรีภาพในการสมาคมจึงมีความสำคัญขั้นพื้นฐานต่อพัฒนาการสังคม บุคคล ศักดิ์ศรี  และการบรรลุเป้าหมายในชีวิตของบุคคลทุกคน และเพื่อความก้าวหน้า และสวัสดิการของสังคม อีกทั้งเอื้อให้กลุ่มที่มีความเชื่อ การปฏิบัติ หรือนโยบายที่หลากหลาย อยู่ร่วมกันโดยสันติได้

ปัญหา

ปัจจุบันแม้ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) แต่มาตรฐานเสรีภาพการในการสมาคมในประเทศยังคงถูกจำกัด โดยที่รัฐไทยและกลุ่มคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกับรัฐ พยายามผลักดันให้ออกกฎหมายในลักษณะที่มีการควบคุมและจำกัดเสรีภาพในการรวมกลุ่มและการสมาคม

ปัจจุบันแม้ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีในกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง (ICCPR) แต่มาตรฐานเสรีภาพการในการสมาคมในประเทศยังคงถูกจำกัด โดยที่รัฐไทยและกลุ่มคนที่อยู่ฝ่ายเดียวกับรัฐ พยายามผลักดันให้ออกกฎหมายในลักษณะที่มีการควบคุมและจำกัดเสรีภาพในการรวมกลุ่มและการสมาคม 

โดยมีร่างกฎหมายหลักที่เห็นชัดว่ามุ่งควบคุมการรวมกลุ่มและการสมาคมอยู่ 2 ฉบับ คือ

คณะรัฐมนตรีอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวเมื่อ วันที่ 4 พฤศจิกายน พ.ศ.2564 ตามที่สำนักงานปราบปรามการฟอกเงิน (ปปง.) เป็นผู้เสนอ โดยมีเนื้อหาที่มุ่งควบคุมการได้รับการสนับสนุนในการสมาคมและการรวมกลุ่มของภาคประชาสังคม และบังคับจดทะเบียนภายใต้ร่างพระราชบัญญัติฉบับนี้ ซึ่งมีข้อกังวงในการจำกัดเสรีภาพในการสมาคมดังนี้

ร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ.

มติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2564 เห็นชอบร่างร่างพระราชบัญญัติดังกล่าวและมอบหมายคณะกรรมการกฤษฎีกาประกอบยกร่างก่อนเสนอคณะรัฐมนตรี ซึ่งต่อมามติคณะรัฐมนตรีเมื่อวันที่ 4 มกราคม 2565 เห็นชอบแนวทางการยกร่างฉบับใหม่ของคณะกรรมการกฤษฎีกา (คณะที่ 2) โดยฉบับนี้ใช้ชื่อว่า “ร่างพระราชบัญญัติการดำเนินกิจกรรมขององค์กรไม่แสวงหากำไร พ.ศ.” ซึ่งมีข้อกังวงในการจำกัดเสรีภาพในการสมาคมดังนี้

ถูกรัฐสอดส่อง 

ถูกรัฐควบคุมการทำงาน

มาตรฐานระหว่างประเทศสำหรับเสรีภาพในการสมาคม

สิทธิเสรีภาพในการสมาคมนอกจากได้รับการรับรองไว้ในตราสารด้านสิทธิมนุษยชนที่สำคัญต่าง ๆ รวมถึงกติการะหว่างประเทศว่าด้วยสิทธิพลเมืองและสิทธิทางการเมือง  ที่ประเทศไทยเป็นภาคี1 ในข้อ 22 แล้วนั้น “ปฏิญญาสากลว่าด้วยนักปกป้องสิทธิมนุษยชน” ยังรับรองสิทธิของบุคคลในการจัดตั้ง เข้าร่วม และมีส่วนร่วมในองค์กรภาคประชาสังคม สมาคม หรือกลุ่มเพื่อสนับสนุนและปกป้องสิทธิมนุษยชน ซึ่งเป็นองค์ประกอบสำคัญของสิทธิเสรีภาพในการสมาคม นอกจากนี้ ยังระบุถึงความสำคัญที่องค์กรภาคประชาสังคมสามารถใช้สิทธิในการสมาคมและการแสดงออกได้อย่างเสรี ผ่านกิจกรรมต่าง ๆ เช่นการแสวงหา ได้รับ และการเผยแพร่ความคิดและข้อมูลใด ๆ การรณรงค์เพื่อสิทธิมนุษยชน การมีส่วนร่วมในการกำกับดูแลและการดำเนินกิจการสาธารณะ การเข้าถึงและสื่อสารกับองค์กรสิทธิมนุษยชนระหว่างประเทศ และส่งข้อเสนอแนะเพื่อการปฏิรูปนโยบายและกฎหมายทั้งในระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติ ผู้รายงานพิเศษของสหประชาชาติเกี่ยวกับสิทธิและเสรีภาพการชุมนุมโดยสงบและการสมาคมได้เน้นย้ำในทิศทางเดียวกันว่าสมาคมต่าง ๆ ควรมีสิทธิในการแสดงความคิดเห็น เผยแพร่ข้อมูล มีส่วนร่วมกับสาธารณะ และรณรงค์กับรัฐบาลและองค์กรระหว่างประเทศด้านสิทธิมนุษยชน โดยมีจุดประสงค์เพื่อการสนับสนุนการเปลี่ยนแปลงกฎหมายและนโยบายอื่น ๆ